วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ตีนกา (wrinkle)


ตีนกา (wrinkle)
เมื่ออายุมากขึ้นนอกจากประสบการณ์ ความรู้ ความรับผิดชอบและโรคจะมากขึ้นแล้ว ก็จะมี ตีนกาโผล่ขึ้นมาซึ่งสร้างความกังวลให้กับคุณผู้หญิง มีคำกล่าวว่าก่อนอายุ 40 ปีหน้าตาจะเหมือนแม่ แต่หลังอายุ 40 ปีหน้าตาจะบ่งบอกวิถีทางการดำรงชีวิต หากการดำเนินชีวิตดี สุขภาพ หน้าตาก็จะดี หากดำเนินชีวิตไม่ดีก็จะมีโรคหรือปัญหาตามมา ผิวหนังเราก็เหมือนอวัยวะอื่นเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะเกิดการเสื่อมโดยเฉพาะผิวหนังส่วนที่ต้องเจอแสงแดดมาก ผิวหนังของเราจะมี collagen elastin รวมทั้งไขมัน เมื่ออายุมากขึ้นไขมันและ collagen ลดลง หากร่างกายถูกแสงแดดมากก็จะมีการทำลายทั้ง collagen elastin ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อใบหน้าก็จะอ่อนแรง น้ำในเซลล์ก็จะลดลงทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้าที่เรียกว่า "ตีนกา" หรือ "wrinkle" ซึ่งมีสองชนิดคือ ชนิดที่เป็นรอยย่นเล็กน้อย และชนิดที่เป็นรอยลึก ชนิดที่เป็นรอยตื้นจะตอบสนองดีต่อการรักษา ตีนกาจะพบมากบริเวณที่ถูกแสงมากเช่น หน้า คอ หลังมือ แขน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยย่น
• อายุ เมื่ออายุมากเซลล์จะแบ่งตัวน้อยลง จำนวนเซลล์ในชั้นหนังแท้ลดลง เซลล์ไขมันและเซลล์ที่สร้าง elastin collagen ลดลง
• ผู้ที่สูบบุหรี่จะเป็นตีนกาได้ง่าย
• ผู้ที่มีผิวขาวตาสีฟ้า
• กรรมพันธุ์
• ทรงผมผู้ที่มีทรงผมเปิดรับแดดจะเกิดรอยย่นที่หน้าได้ง่าย
• การแต่งตัว หากใส่เสื้อผ้ารับแสงก็เป็นได้ง่าย
• ผู้ที่ต้องทำงานกลางแสงแดด
ปัจจัยที่ป้องกันได้ คือ การทาครีมกันแสงหรือการหลีกเลี่ยงแสงแดดและการงดการสูบบุหรี่
การรักษา
การใช้ยาทา

• Vitamin A Acid เป็นยาทาที่นิยมใช้มากที่สุดและได้ผลดีที่สุดโดยเฉพาะผิวหนังที่เริ่มแสดงถึงความชรา เช่น ผิวตกกระ ผิวย่น เริ่มแรกจะมีการระคายผิวหลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้น
• Alpha-hydroxy acids หรือที่เรียกว่า AHA เป็นกรดอ่อนที่ได้จากผลไม้ยาทาชนิดนี้ค่อยข้างจะปลอดภัย
• Antioxidants เป็นครีมที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามิน เอ อี ซี ยาทานี้มีผลป้องกันมากกว่าการรักษา
• Ordinary moisturizers เป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแกผิวหนังทำให้รอยย่นไม่เด่นชัด
• การฉีดสารเข้าใต้ผิวหนัง เช่น botox collagen fat
การใช้การเสริมสวย
• การลอกหน้าหรือการทำ baby face โดยใช้สาร Gycolic acid peels ใช้ลอกหน้ากรณีที่เป็นรอยย่นชนิดตื้นๆ
• การลอกหน้ารอยย่นชนิดลึกโดยใช้ salicylic acid และ trichloroacetic acid ใช้ได้ดีกับรอยย่นชนิดตื้น หากใช้กับรอยย่นยิ่งลึกก็ยิ่งเกิดโรคแทรกซ้อนมากขึ้น เมื่อลอกเซลล์เก่าไปก็เกิดเซลล์ใหม่ขึ้น เซลล์ที่เกิดใหม่จะไวต่อแสงมากดังนั้นต้องทาครีมกันแสง
• การขัดหน้า Dermabration โดยใช้เครื่องมือที่มีผิวหยาบเหมือนกระดาษทรายขัดหน้า จะต้องวางยาสลบให้กับผู้ป่วย ผลข้างเขียงอาจจะทำให้เกิดแผลเป็น
• การใช้ Laser ในการขัดผิวได้ผลดีเหมือนการขัดด้วยกระดาษทราย ไม่ต้องวางยาสลบเพียงฉีดหรือทายาชาร่วมกับยานอนหลับ
• การทำศัลยกรรมตกแต่ง เช่นการดึงหน้า เป็นต้น
• การฉีดสาร Botox เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแรงรอยย่นจึงหายไป
• การฉีดสารสังเคราะห์เข้าไปบริเวณตีนกาได้แก่สาร collagen Artecol hyaluronic acid Restylaneเข้าบริเวณรอยย่น
การป้องกัน
• หลีกเลี่ยงแสงแดด
• การเลือกครีมกันแดด ห้ามใช้ในเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ในเด็กให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ผู้ใหญ่ที่ผิวขาวให้ใช้ SPF 20-30 บางท่านแนะนำให้ใช้ SPF 30 สำหรับใบหน้าและให้ใช้ครีม SPF 15 สำหรับตามตัวและควรทาก่อนออกแดด 15-30 นาทีและให้ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
• การดูแลผิวหนัง ให้ใช้สบู่อ่อนล้างหน้า ไม่ควรใช้สบู่ด่างและผสมน้ำหอม หลังจากล้างหน้าใช้ผ้านุ่มๆซับผิวหน้าและทาครีมให้ความชุ่มชื้นผิวหน้าใช้ชนิดที่ละลายน้ำ
• การดำเนินชีวิตตามภาวะสุขภาพดี เช่นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น